【Interview】Alice Nine「ถ้าพวกเขาไม่มีความสามารถในด้านนี้มากพอ ก็คงไม่มีพลังที่จะเขียนเพลงที่มีเนื้อหาเต็มเปี่ยมด้วยความกล้าหาญขนาดนี้ได้」
ในปี 2013 นี้ เป็นการฉลองครบรอบ 9
ปีเมเจอร์เดบิวต์ของ Alice Nine ซึ่งเปิดฉากการครบรอบของวงด้วยการปล่อย 3 ซิงเกิ้ลในเวลาไล่เลี่ยกัน
เริ่มต้นด้วย「Daybreak」ที่ใส่ความหนักแน่นตามแบบฉบับ Rock Band.. ทั้งบทเพลงที่แต่งด้วยความรู้สึกจากหัวใจได้หล่อหลอมจนเป็น
Alice Nine อย่างเช่นทุกวันนี้ แล้วเติมเต็มด้วยความมั่นคงแน่วแน่ในเสียงดนตรีที่ผ่านการขัดเกลามาอย่างดี
ซึ่งเมื่อ「Daybreak」เสร็จสมบูรณ์ก็จะกลายเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซชิ้นใหม่ของ
Alice Nine เลยทีเดียว แทบจะได้ยินถึงความรู้สึกในตอนนี้ได้เลยล่ะ
(ประมาณว่า แทบจะได้ยินความรู้สึกของตัวเองที่รอฟังซิงเกิ้ลใหม่ของอลิสฯได้เลยล่ะ)
นอกจากนี้..
ตั้งแต่เดือนมีนาคม Alice Nine จึงเข้าร่วมไขคีย์เวิร์ด
9 คำ กับ BARKS โดยรอบแรกของเดือนประกอบด้วย
3 หัวข้อ..「Character」「Formation」「Band’s Name」เพราะเคยได้ยินเรื่องราวที่ไม่เคยบอกให้ใครรู้เกี่ยวกับโฉมหน้าที่แท้จริงของเมมเบอร์แต่ละคนในช่วงที่เริ่มฟอร์มวง
◆「 ผมแค่คิดว่า อยากจะมุ่งไปสู่การเป็นวงในฝันของคนอื่นๆ เหมือนตอนที่เราอยากจะเป็นวงเจ๋งๆ ให้ได้เหมือนกับวงที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเราครับ」(ซางะ)
- - หลังจากย้ายค่ายเพลงใหม่ Alice Nine ก็ใกล้จะฉลองครบรอบ 9 ปีแล้วด้วยสินะ การก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 อันน่าจดจำนี้ คิดว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเมมเบอร์ทั้ง 5 คน มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนบ้างหรือเปล่า
โช : การเปลี่ยนแปลงที่ว่า.. อย่างเช่นทะเลาะกันรึเปล่าครับ พวกเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันหรอกนะ
โทระ : ไม่มีเหตุผลที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นหรอกน่า
โช : อย่างเมื่อกี้ก็เพิ่งตกลงกันว่า จะไปดื่ม แล้วก็หาเรื่องคุยเล่นกันด้วยแหละ ฮ่าๆๆ
โทระ : แต่ว่า ฉันยังเป็นนักเรียนอยู่เลยนะ
โช : เป็นเรื่องที่คุยกันในห้องแต่งตัวบ่อยๆ เลยล่ะ เพราะถึงยังไงก็ยังเป็นเด็กมัธยมกันอยู่เลยอะ
- - ความสัมพันธ์ระหว่างเมมเบอร์ไม่เปลี่ยนไป แต่คิดว่าหลายปีมานี้แนวเพลงของวงเปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะ โดยเฉพาะอัลบั้ม『GEMINI』กับ『“9”』รู้สึกว่า Alice Nine สร้างผลงานที่ฟังแล้วหนักแน่นมั่นคงสมเป็นร็อคแบนด์มากขึ้น ถ้าไม่นับผลงานชิ้นล่าสุดอย่าง「Daybreak」เพลงนี้มีซาวด์ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและสวยงามมากๆ รู้สึกเหมือนกับว่า การจะก้าวไปยังจุดหมายไม่ใช่เรื่องยากลำบากเลยสักนิด
Shou : ตั้งแต่อัลบั้ม『VANDALIZE』ต้องขอบคุณจริงๆ ที่ซางะคุงเป็นเมนคอมโพสเซอร์ และมีเมมเบอร์ทุกคนคอยเอาใจใส่ถึงการเติบโตของทุกบทเพลงมาเป็นอันดับแรก บางทีตั้งแต่แรกที่ฟอร์มวงขึ้นมา พวกเราทั้ง 5 คนก็มุ่งไปอย่างภาคภูมิใจในความหมายที่แท้จริงของคำว่า ร็อคแบนด์
..ในอัลบั้ม『GEMINI』กับ『“9”』ความรู้สึกของเราเข้มแข็งขึ้นมาก
และรู้สึกเหมือนได้เป็นหนึ่งเดียวกับทุกคนจนเริ่มคุ้นชินกับระดับที่สูงขึ้น แต่ถ้าหากไม่มีบทเพลงที่แสดงออกถึงความรู้สึกแบบ
「Daybreak」ล่ะก็.. ผมคิดว่า
เราคงไม่หลงเหลือความเชื่อมั่นแบบที่มีอยู่ตอนนี้หรอกครับ
ซางะ : อย่างพวกเราที่มีแนวดนตรีแบบวิช่วลเคย์เนี่ย ทิศทางที่เรามุ่งไปก็ทำให้เข้มขึ้นจากเมื่อก่อนเยอะเลยครับ และสิ่งที่สำคัญสำหรับวงในแง่ของดนตรี คือ ถ้าไม่มีพื้นฐานก็เหมือนไม่มีสิ่งที่คอยผลักดัน ดังนั้นเราจะเริ่มต้นด้วยการปรึกษาภายในวงเป็นอย่างแรกจนกระทั่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย และถึงตอนนี้เราจะทำเพลงออกมาเยอะแยะ แต่เพลงเหล่านั้นก็ไม่ได้เป็นกฎเกณฑ์ตายตัวสำหรับวงของเรา
อิมเมจของ Alice Nine ในแต่ละซิงเกิ้ลจึงแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าคุณได้ติดตามทุกซิงเกิ้ลก็จะรู้ว่า
เราปรับเปลี่ยนมันบนพื้นฐานของความเหมาะสม
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นบทเพลงแบบไหน
ในตอนนี้ก็จะส่งผ่านไปด้วยซาวด์แบบที่มันควรจะเป็น
และทุกความหมายก็ล้วนมีความรู้สึกแฝงอยู่ด้วย
เพราะงั้นสำหรับพื้นฐานของวง ผมจึงอยากทำเพลงที่เหมือนมีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรง ตั้งแต่อัลบั้ม 『VANDALIZE』ก็คิดแบบนั้นมาตลอด เลยค่อยๆ พยายามฝึกฝน
- - ซางะคุงกำลังจะบอกว่า ในแต่ละเพลงล้วนมีลางสังหรณ์ที่ถูกต้องชัดเจนแฝงอยู่ใช่รึเปล่า
ซางะ : ผมแค่คิดว่า อยากจะมุ่งไปสู่การเป็นวงในฝันของคนอื่นๆ เหมือนตอนที่เราอยากจะเป็นวงเจ๋งๆ
ให้ได้เหมือนกับวงที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเราครับ
โช : ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่นายอยากเป็นวงในฝันของคนอื่นกันน่ะ
Alice Nine : อาจจะตั้งแต่ตอนนี้เลยก็ได้นะ ฮาาาา
◆「 มันเหมือนกับว่า
ตอนนี้เรากำลังกินอาหารที่ปรุงด้วยเพสโต้ซอส (ซอสโหระพา) ในร้านอาหารสไตล์อิตาลีที่ค่อนข้างทันสมัย แล้วตามด้วยทงคัตสึราเมนรสจัดจ้านเลยล่ะ ฮ่ะๆๆ 」(โช)
ซางะ : 「 Daybreak 」 ถูกสร้างขึ้นเหนือพื้นฐานของวงครับ
เราคิดว่า ถ้าทำเพลงโดยไม่ยึดพื้นฐานนั้นเลยล่ะก็.. จะต้องได้ซาวน์ที่แตกต่างไปจากเดิมแน่ๆ
「 Daybreak 」อาจเป็นแค่เพลงสไตล์ป็อบที่ฟังติดหู
แต่ตอนนี้เราเป็นร็อคแบนด์นะ ดังนั้นเวลาที่เล่นเพลงนี้มันต้องออกมาเจ๋งสุดๆ
และเพราะว่าเราเป็นร็อคแบนด์ เพราะว่าเราได้ทำอัลบั้ม『“9”』ออกมาเสร็จสมบูรณ์ ผมเลยคิดอีกว่า น่าจะลองสร้างสีสันใหม่ๆ
ให้กับบทเพลงของเราครับ
- - สร้างสีสันใหม่ๆ ขึ้นมา..
งั้นแสดงว่า「 Daybreak 」ก็เป็นเหมือนก้าวแรกเลยสินะ
ซางะ : ถูกต้อง!! ตามความหมายของชื่อเพลงเลย「 รุ่งอรุณ 」ไงล่ะ
โช :
ก่อนหน้านี้ต้องเลือกเพลงมาลงในซิงเกิ้ลจาก 10 เพลงเลยนะ
แต่สุดท้ายก็ได้ทั้งโปรดิวเซอร์และสต๊าฟมาช่วยกันตัดสินใจ
โดยส่วนตัวผมคิดว่า
เมโลดี้ของท่อนฮุคในเพลงนี้ เป็นจุดหลักที่สร้างอารมณ์ในแง่บวกมากๆเลยนะ แล้วอีกอย่าง..
ตอนแรกเพลงมันออกแนวพังค์กว่านี้หน่อย
ใช่ป่ะ?
โทระ : ใช่เลยๆ
โช :
แต่พอเอามาเรียบเรียงก็เปลี่ยนไป 180° เลยล่ะครับ
-- ซาวด์ของเพลงที่ค่อนข้างซับซ้อนเนี่ย เพราะถูกเรียบเรียงออกมาให้มีสไตล์แบบ UK สินะ
ฮิโรโตะ :
ครั้งนี้ได้ฮิราอิเดะซัง (ฮิราอิเดะ ซาโตรุ) มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ด้วยนะครับ ไม่น่าเชื่อว่าเราสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสนิทใจขนาดนี้
เพราะงั้นผลที่ได้จากการร่วมกันเรียบเรียงเพลงนี้ ผมว่ามันเป็นอะไรที่สร้างสรรค์สุดยอดเลย..
จริงมั้ย?
โช :
โปรดิวเซอร์จะคอยตามงานจากเราตลอดเลยครับ
ต้องขอบคุณฮิราอิเดะซังจริงๆ ที่ใส่ใจแม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของเพลง
ซางะ : ดังนั้น จนกว่าจะได้รูปแบบสุดท้ายของอิมเมจซาวด์ เราจึงเริ่มทำงานโดยคำนึงถึงช่องว่างของเสียงที่อาจขึ้นระหว่างทำเพลงตลอดเลยครับ
นาโอะ :
ฮิราอิเดะซังเคยเป็นมือกลองมาก่อนแหละ
ตอนทำงานด้วยเลยรู้สึกยุ่งยากนิดหน่อย
เพราะเหมือนโดนเขาจับตาดูจนกระทั่งเพลงเสร็จสมบูรณ์ ..ที่อัดเสียงไป ก็เขานี่แหละเป็นคนจูนกลองให้ล่ะ
-- แต่ในที่สุดก็ได้ซาวด์ที่มีรายละเอียดอออกมาเจ๋งอย่างที่คาดไว้ เสียงร้องของโชซังก็เร่าร้อนผิดจากเดิมเลยนะ ส่วนเนื้อเพลงก็รู้สึกได้ถึงความเข้มแข็ง
โช : ในจุดนี้ มันก็มีความกดดันตอนที่แต่งเพลงอยู่นะครับ โดยเฉพาะเพลงที่มีเนื้อหาดีๆ สำหรับซิงเกิ้ล ดังนั้นผมจะอ่านหนังสือ และดูหนังเยอะมากๆ รวมไปถึงจดข้อคิดที่ได้จากสิ่งเหล่านั้น
เมื่อได้ฟังเพลงนี้ ผมจึงคิดว่า ผมไม่มีทางเลือกใด นอกจากเผชิญหน้ากับตัวตนของผม
ดังนั้นผมจึงไม่ควรเลือกใช้แค่คำพูดที่แว่บเข้ามาในหัวอย่างเดียว
ถ้าผมทำแบบนั้นไม่ได้ก็เหมือนผมไร้ความสามารถ
มันเหมือนว่าเพลงนี้มีพลังแฝงบางอย่างที่ช่วยให้ผมสามารถเขียนเนื้อเพลงที่มีเสน่ห์มากขนาดนี้ได้ และสุดท้ายมันก็กลายเป็นเพลงที่ไม่ใช่แค่แสดงถึงตัวตนของเมมเบอร์ของ
Alice Nine เท่านั้น
แต่ยังบอกเล่าถึงสิ่งที่เราเป็นอยู่ในตอนนี้ด้วย
-- แม้แต่ตัว PV เองก็อยู่ในระดับที่เกินกว่าทุกแนวที่เคยทำสินะ พวกคุณคิดยังไงเกี่ยวกับ PV ที่ดูทรงพลังอย่างมากนี้กันบ้างล่ะ
โช :
เราถ่ายทำกันในทะเลทรายครับ
เป็นที่ที่เหมือนกับชิซุโอกะเลยล่ะ
เราไปที่นั่นก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นซะอีก
โทระ : เป็น PV ที่ไม่ต้องสร้างฉากประกอบเพิ่มเติมเลยล่ะ
โช :
แล้วยังถ่ายทำตอนหนาวสุดๆ ด้วยอะ
อุณหภูมิติดลบ 5 องศา แถมลมยังพัดแรงมาก
แต่เรากลับใส่ได้แค่ชุดเหมือนตอนฤดูใบไม้ผลิ
ฮิโรโตะ : ถ้าดูจาก PV ไม่มีทางรู้หรอกว่ามันหนาวขนาดไหน
โช : รู้ดิๆ ผมว่าถ้าลองมองซางะคุงให้ดีๆ
ตอนที่พวกเราเดินรวมๆ กันอะ
คุณจะเข้าใจเลยล่ะ แบบ “อ้อ...
เข้าใจล่ะ” ฮ่าๆๆ
ซางะ :
เหมือนในใจผมมันคิดว่า “...พอเหอะ
...ทำไม่ได้หรอก” พลังลดฮวบเหลือศูนย์อะ
โช :
เขาเอาแต่พูดซ้ำไปซ้ำมาว่า “ทำไมต้องใช้หัวข้อเพลงเกี่ยวกับรุ่งอรุณด้วยนะ ทำไมๆๆ” ฮาาาาา
-- เอาล่ะ
ทีนี้ช่วยพูดเกี่ยวกับเพลงที่สองในซิงเกิ้ลอย่าง 「Himitsu 」ด้วยสิ เพลงนี้เป็นฮิปฮอปแบบอลิสสไตล์ เป็นเพลงแรกที่ฟังแล้วเหมือนจะสมัยนิยมมากขึ้นเลยนะ
ซางะ :
ถึงแม้ว่าเราจะเป็นที่รู้จักในฐานะร็อคแบนด์จนกระทั่งตอนนี้
แต่พวกเราก็ห่างไกลจากคำว่า ร็อค มาเยอะเหมือนกันนะ
คงเป็นเพราะเราไม่ค่อยได้ใส่ใจฟังเพลงว่ามันทันสมัยมั้ย
หรือซาวด์กีต้าร์เพี้ยนไปหรือเปล่า ฮ่าๆๆ
เพลงนี้จึงทำออกมาด้วยอารมณ์ที่อยากให้ฟังแล้วดูเป็นวงที่ทันสมัยขึ้น
และแต่งขึ้นเพื่อสร้างบรรยากาศที่แปลกใหม่ในไลฟ์น่ะครับ
--
เลยปรับให้มีสไตล์ของฮิปฮอปสินะ ฉันคิดว่า
มันน่าสนใจมากทีเดียวล่ะ
ซางะ :
ถึงแม้สไตล์นี้จะไม่มีพื้นฐานแบบเดิมหลงเหลืออยู่เลยก็เหอะนะ
นาโอะ :
ถ้างั้นฉันคงต้องใช้เวลา 3
ปีในการปรับตัวให้เข้ากับสไตล์นี้เลยอะ ฮาาาาา
--
แล้วเดือนหน้าจะปล่อยผลงานแบบไหนออกมาอีกล่ะ
โช : มันเหมือนกับว่า
ตอนนี้เรากำลังกินอาหารที่ปรุงด้วยเพสโต้ซอส (ซอสโหระพา)
ในร้านอาหารสไตล์อิตาลีที่ค่อนข้างทันสมัย
แล้วตามด้วยทงคัตสึราเมนรสจัดจ้านเลยล่ะ! ฮ่ะๆๆ
ฮิโรโตะ :
แล้วต้องที่ร้านคาเคอิราเมนด้วยนะ
นาโอะ :
ฉันว่าร้านนั้นเส้นมันเหนียวไปนะ ฮ่าๆๆ
-- ต่อไปนี้.. ฉันคิดว่า
อยากรู้จัก Alice Nine ให้มากขึ้นแล้วล่ะ เรามาเริ่มส่วนแรกจาก 9
คีย์เวิร์ดของโปรเจ็คพิเศษต่อเนื่อง 3 เดือน ฉลองครบรอบ 9 ปี Alice
Nine กันเถอะ
◆ No. 1 「 Character 」
-- คุณตื่นขึ้นมาในตอนเช้า แล้วพบว่า ตัวเองกลายเป็นโชซัง คุณจะทำยังไง
โทระ :
ถ้ามีหน้าตาแบบนี้นะ... ผมจะไปนัดบอดโลด
ซางะ :
ไม่ต้องลังเลอะไรแล้วล่ะ ผมจะหาสาวมาควง
นาโอะ : อย่างแรกเลย..
ผมจะออกไปข้างนอก แล้วร้องเพลงออกมาดังสุดเสียงท่ามกลางอากาศที่สดชื่น
ฮิโรโตะ :
ผมอยากจะร้องเพลงให้ใครสักคนได้ฟังครับ
-- แล้วถ้ากลายเป็นฮิโรโตะซังล่ะ
โช : ผมคิดว่า
จะเล่นกีต้าร์ให้ใครสักคนฟังครับ!
โทระ : ก่อนอื่นก็ต้อง..
ไปนัดบอด ฮ่าๆๆๆ
ซางะ :
ผมจะตามหาผู้หญิงคนหนึ่งที่เห็นในไลฟ์
เธอยืนอยู่หน้าฮิโรโตะเลยครับ
แล้วก็ดูคลั่งเขามากอะ
นาโอะ :
ผมจะแอบขโมยสุนัขตัวน้อยสุดรักสุดหวงของเขาครับ
โมกุไงล่ะ
-- งั้นถ้ากลายเป็นโทระซังล่ะ
โช :
ถ้ากลายเป็นโทระเหรอ... ไปนัดบอดล่ะมั้ง ฮ่ะๆ
ซางะ : ผมจะไปนัดบอดชัวร์
นาโอะ :
ผมจะรีบกลับไปนอน ผมต้องฝันไปแน่ๆ ฮาาาา
แล้วจากนั้นก็จะแอบมองในกางเกงล่ะ
Alice Nine :
กร๊ากกกกกกกก ก ก ก ก
ฮิโรโตะ :
เขาเป็นคนพูดเก่งครับ ผมเลยคิดว่า
จะลองพูดให้ได้แบบเขาบ้าง
-- แล้วถ้ากลายเป็นซางะซังล่ะ
โช :
ปกติเขาจะแต่งตัวธรรมดาๆ ครับ แต่ซางะคุงหุ่นผอมเพรียวมาก เพราะงั้นผมเลยอยากลองจับเขาแต่งตัวเป็นผู้หญิง
โทระ :
ถ้าผมเป็นซางะคุงเหรอ
คิดได้เยอะอยู่นะ แต่แน่นอนว่า..
ต้องไปนัดบอด ฮ่าๆๆๆๆ
นาโอะ :
อย่างแรกก็ต้องเช็คยอดเงินในบัญชีธนาคาร ฮาาาาา
ฮิโรโตะ :
จะลองปิดตาข้างนึงแล้วมองไปข้างหน้า
เพราะผมคิดว่า จมูกของซางะคุงโด่งมากอะ
โลกที่เขาเห็นจะต้องต่างจากที่ผมเห็นแน่นอนเลย ฮ่ะๆๆ
-- ต่อไปก็..
ถ้าคุณกลายเป็นนาโอะซัง
โช :
ผมก็จะได้กินอาหารที่ผมไม่สามารถกินได้
อย่าง.. ปู หรือเนื้อแกะ
ผมจะไปลองกิน แล้วเดี๋ยวมาบอกนะว่ารสชาติมันเป็นยังไง
โทระ : นัดบอด? ผมไม่คิดว่า อย่างนาโอะซังจะเหมาะกับนัดบอดหรอก ฮ่ะๆ
เพราะเขาดูเป็นคนที่มีอารมณ์ค่อนข้างลึกซึ้ง
ดังนั้นผมอยากลองใช้ชีวิตแบบนาโอะซังดูครับ
ซางะ :
ร่างกายของนาโอะซังค่อนข้างอ่อนไหวง่ายอะ!
แล้วอีกอย่างมันไม่ใช่ร่างกายของผมด้วย
เพราะงั้นอยากทำบางอย่างที่ช่วยให้ร่างกายเขาแข็งแรงขึ้นครับ! ฮ่าๆๆ
ฮิโรโตะ : นั่นสินะ.. ผมคิดหนักนะ เพราะร่างกายนาโอะซังอ่อนไหวง่ายนี่แหละ ฮาาา ในแต่ละวัน ถ้าจะไปทำอะไรเสี่ยงๆ ด้วยร่างกายของเขา...
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะตอบเลยนะ!!
◆ No. 2「 Formation 」
-- ตอนนี้..
เราจะมาพูดถึงเรื่องที่ไม่มีใครเคยรู้เกี่ยวกับการฟอร์มวงของ Alice Nine กันล่ะนะ
โทระ :
เคยมีมือกีต้าร์อีกคนก่อนหน้าฮิโรโตะล่ะ
โช :
วงนี้ฟอร์มขึ้นโดยมีพวกเขา (นาโอะกับซางะ) และพวกผม (โชกับโทระ)
เรามารวมกันแล้วฟอร์มวงขึ้นมา
ซางะ : ตอนแรกมีพวกเรามีกัน
3 คนครับ (หมายถึง ซางะ
นาโอะ และมือกีต้าร์อีกคน) จากนั้นเราก็ไปรวมวงกับพวกเขา (โชกับโทระ)
โช : แล้วพวกเรา 5 คนก็ไปสตูดิโอ แต่...
ซางะ :
พวกเรารู้สึกอึดอัดนิดหน่อยกับมือกีต้าร์คนนั้นครับ และเขาก็คงรู้สึกได้
และอ่านบรรยากาศระหว่างพวกเราออก
โทระ : เขาเลยพูดว่า
“ทำไมถึงเป็นฉันไม่ได้ล่ะ”
นาโอะ :
หลังจากนั้นเขาก็ออกไปจากวงครับ
◆ No. 3「 Band’s Name 」
-- ต่อไปเราก็จะพูดถึงชื่อวง Alice
Nine และจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของพวกคุณ
โช :
เมมเบอร์ทุกคน ยกเว้นนาโอะซัง
ไปนั่งพูดคุยเกี่ยวกับชื่อวงกันที่ร้านแห่งหนึ่งแถวชินจูกุครับ
แต่ก็ไม่มีใครคิดชื่อดีๆ ออกมาได้เลย
แล้วอยู่ซางะคุงก็พูดออกมาประมาณว่า “ชื่อแอนนิต้าซังดีม่ะ??” ฮ่าๆๆ
ซางะ :
หลังจากนั้นก็มีชื่อ KORN ถึงแม้ว่า วงนี้จะมีอยู่แล้วก็เถอะ
โทระ : เราเคยใช้ตัว R กลับด้านจากชื่อวง KORN ด้วยนะ ผมว่ามันเจ๋งดีอะ
ซางะ :
ถ้าจะบ้าไปแล้ว เห้ออ (ยิ้มเหยเก)
โช :
ยังอีกยาวเลยนะครับว่า ชื่อ Alice Nine มาได้ยังไง ย้อนกลับไปตอนนั้นก็คือ ผมได้อ่านนิยายของ
นากาโนะ มายูมิซัง ที่ชื่อว่า “Shounen Alice (หนุ่มน้อยอลิส)” แล้วตอนนั้นผมก็ชอบแบรนด์ของ
NUMBER(N)INE
เมมเบอร์ทุกคนคิดว่า เลข 9 เนี่ยมันเจ๋งดี ดูมีความเป็นร็อค
พวกเราเลยเอาคำว่า Alice กับ 9 มารวมกัน เราตัดสินใจใช้ชื่อนี้ด้วยความรู้สึกที่ว่า
“จะเป็นยังไงกันนะ
เมื่อเริ่มใช้ชื่อนี้”
และสำหรับนาโอะซังที่ไม่ได้ไปนั่งคิดด้วยกันในตอนนั้น
พวกเราก็บอกให้เขาได้รู้ผ่านทางอินเตอร์เน็ตครับ จนถึงตอนนี้ผมคิดว่า
เป็นครั้งแรกที่เราพูดถึงที่มาของชื่อวงกันนะ