วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Oricon - PSP 1800 : Vol.03 Takeru(SuG)× Hiroto(Alice Nine)

จุดสำคัญที่เหมือนกันของคนทั้งคู่...

ทาเครุ : เอาล่ะ.. เราจะพูดถึงเรื่องแชมพูของฮิโรโตะซังกันนะครับ ว่ามันดียังไง

ฮิโรโตะ : อื้อ มันดีมากเลยล่ะ  แชมพูน่ะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด  ถ้าเลือกใช้ทั้งแชมพูและครีมนวดที่ดี  ผมก็จะไม่เสียไง

ทาเครุ : นั่นสินะ! แต่ผมไม่ค่อยใส่ใจว่าจะใช้ยี่ห้อไหนเลยนี่สิครับ

ฮิโรโตะ : ไม่ดีเลยนะ ไม่ดีเลยจริงๆ!



-- อ๊ะ.. เริ่มแล้ว เริ่มแล้ว เริ่มแล้ว~!

ฮิโรโตะ : อะไรเหรอ? (หัวเราะ)

ทาเครุ : ไม่มีอะไรหรอกครับ  โชซังบอกว่า ครอบครัวของฮิโรโตะซังเปิดร้านเสริมสวย  เคยคุยเรื่องผม  แล้วดูกระตือรือล้นเหมือนมืออาชีพมาก (หัวเราะ)  



-- ถึงแม้จะเริ่มคุยกันไปเยอะแล้ว  แต่ขอพูดนิดนะ  วันนี้ฮิโรโตะดูสมเป็นรุ่นพี่มากเลยล่ะ (หัวเราะ)

ฮิโรโตะ : ตลกแฮะ  เพราะในวงผมอ่อนที่สุดเลยนะ (หัวเราะ) แต่ไม่คิดว่าจะแก่กว่าทาเครุเยอะหรอก

[ คิดว่า ฮิโรโตะน่าจะแก่กว่า 2 ปีมั้งนะ  เพราะ SuG ค่อนข้างจะปิดเรื่องอายุ  ไปลองขุดๆ หาๆ ก็ได้ข้อมูลไม่ค่อยชัวร์เท่าไหร่ เอิ๊กๆ ]

ทาเครุ : ใช่แล้วครับ  ก็เหมือนมาจากรุ่นเดียวกันแหละเนอะ

ฮิโรโตะ : แน่นอน  ว่าแต่.. ทาเครุเป็นอะไรน่ะ?

ทาเครุ : อะไรครับ?!

ฮิโรโตะ : เอ้ย! ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะ (หัวเราะ) จะบอกว่า เพลงอะไรที่ฟังแล้วทำให้ตัดสินใจทำวงเหรอ?

ทาเครุ : นั่นคือ “อะไร” ที่พูดถึงเมื่อกี้สินะ (หัวเราะ)  ผมแปลกใจนิดๆแฮะ (หัวเราะ)  ผมฟังเพลงของวง  Dragon Ash, ELLEGARDEN, ORANGE RANGE แล้วก็ KORN ครับ

ฮิโรโตะ : แต่ไม่ได้เริ่มฟังแนว Visual Kei เลยนี่

ทาเครุ : ครับ  น้องสาวผมตังหากที่ชอบแนวนี้  ผมได้ดู DVD ของเธอ  เลยได้รู้จักกับ Visual Kei  เพลงแรกๆ ที่ผมร้องโคฟเวอร์เป็นของ SADS, ORANGE RANGE และ Nirvana ครับ

ฮิโรโตะ : ไม่ใช่แนวเดียวกันเลยนะ!

ทาเครุ : ครับ  ผมชอบฟังเพลงหลายๆแนวน่ะ  ผมเลือกฟังเพลงจากตัวศิลปิน  เพราะมันจะมีคุณภาพมาก  ตอนแรกผมไม่ได้คิดจะฟอร์มวงหรอกครับ  ผมอยากเป็นผู้กำกับที่ทั้งเขียนบทเอง  กำกับเอง

ฮิโรโตะ : เห๊?! อะไรกันล่ะเนี่ยยย?

ทาเครุ : ก็ผมไม่เก่งเรื่องดนตรีนี่นา

ฮิโรโตะ : ไม่เก่งแล้วทำไมถึงคิดจะฟอร์มวงล่ะ

ทาเครุ : ก็หลังจากฟังอัลบั้ม 666 (วางแผงในเดือนธันวาคม 2003) ของ Hyde ซังครับ  ผมก็ตกใจตัวเองนะ  เพราะหลังจากนั้นก็ไปดูไลฟ์เป็นครั้งแรกเลยล่ะ  เป็นไลฟ์ที่ดีมาก  จนทำให้คิดว่า “วิวที่มองจากเวทีลงมาจะเป็นยังไงกันนะ?” ก็เลยอยากลองฟอร์มวงน่ะครับ

ฮิโรโตะ : เข้าใจล่ะ  แล้วก็ต้องเป็นนักร้องนำด้วยใช่มั้ย?

ทาเครุ : ครับ  ก็ร้องเพลงเป็นอยู่อย่างเดียวอะ

ฮิโรโตะ : อื้อ  แต่ฉันว่านั่นไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ฟอร์มวงหรอก  นายสัมผัสได้ถึงภาพฉากต่างๆ ที่แฝงอยู่ในดนตรีตังหากล่ะ        

ทาเครุ : ครับ  ผมชอบดูหนังแล้วก็อ่านนิยายมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะ  ผมเลยอยากที่จะสร้างโลกในแบบของผมที่สามารถเชื่อมไปถึงดนตรีได้น่ะครับ

ฮิโรโตะ : อื้อ  น่าสนใจแฮะ  พอได้ฟังที่นายพูด  ฉันรู้สึกได้ว่านั่นคือสิ่งที่นายทำเพื่อ SuG  และนายก็ทำได้อย่างที่ต้องการแล้วนะ

ทาเครุ : ครับ  เหมือนกับดนตรีของเราอยู่บนพื้นฐานของความสร้างสรรค์เลยล่ะ

ฮิโรโตะ : อื้อ ใช่แล้ว  ว่าแต่นายอ่านนิยายแนวไหนเหรอ?

ทาเครุ : ถ้าตอนยังเด็กก็อ่านแต่แบบที่เด็กเขาอ่านกันแหละครับ  เรื่องแรกก็ต้อง การผจญภัยของยักษ์กาลิเวอร์ (หัวเราะ) แต่นิยายเรื่องแรกที่อ่านเป็นของอิชิดะ อิระซังครับ 

ฮิโรโตะ : แล้วมีเรื่องอะไรที่เพิ่งอ่านไปบ้างมั้ย?

ทาเครุ : ก็มีงานของซาคุราบะ คาซึกิซังครับที่เพิ่งอ่านจบไป ..เรื่อง สาวน้อยโรแวน กับ ผู้ใหญ่ที่น่ารักทั้งเจ็ด [ โรแวน (Rowan) เป็นอีกชื่อหนึ่งของต้น Mountain Ash ค่ะ ซึ่งจะใช้เรียกในแทบไอร์แลนด์และอังกฤษค่ะ ]

ฮิโรโตะ : แล้วอ่านงานของนิชิโอะ อิชินซังบ้างรึเปล่า อย่างเรื่อง เรื่องเล่าสยองขวัญ ?

ทาเครุ : อ้อ เคยได้ยินชื่อเรื่องอยู่นะ!

ฮิโรโตะ : พล็อตเรื่องหักมุมมากอะ แถมเขายังใช้คำได้น่าสนใจสุดๆ  อ้อ.. งานของโอซึอิจิซังก็น่าสนใจเหมือนกันนะ

ทาเครุ : ผมชอบงานของโอซึอิจิซังครับ! ตอนที่เรียนอยู่ม.ปลายผมอ่านงานของเขาตลอดเลยล่ะ

ฮิโรโตะ : ฉันก็อ่านเยอะเหมือนกันนะ  แล้วชอบเรื่องไหนเป็นพิเศษล่ะ?

ทาเครุ : เรื่องราวที่สาบสูญ แล้วฮิโรโตะซังล่ะครับ

ฮิโรโตะ : ฉันชอบ SEVEN ROOMS จากซีรี่ย์ ZOO

ทาเครุ : เรื่องนั้นได้สร้างเป็นหนังด้วยใช่มั้ยครับ? เรื่องนั้นดีมากๆเลยล่ะ! ผมก็ชอบน๊า! ชอบเหมือนกันเลย!  ใน MV เพลง Kiseki ของ THE BACK HORN ก็มีฉากในหนังด้วยนะครับ  เพราะเป็นเพลงประกอบในเวอร์ชั่นหนังล่ะ  

ฮิโรโตะ : สไตล์การเขียนของโอซึอิจิซังค่อนข้างจะรุนแรงนะ แต่ฉันว่ามันน่าสนใจตรงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกโศกเศร้า!

ทาเครุ : อืม.. ฮิโรโตะซังเคยอ่านเรื่อง ตลาดมืด ของทซึเนะคาวะ  โคตารุซังมั้ยครับ?

ฮิโรโตะ : ไม่เคยอะ

ทาเครุ : ถ้าชอบงานของโอซึอิจิซัง  ผมแนะนำเรื่องนี้เลยครับ  ต้องชอบแน่ๆ!

ฮิโรโตะ : จริงดิ? เดี๋ยวจะลองหามาอ่านนะ 






“การเต้น!” เป็นสิ่งที่เหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อของทั้งคู่

-- คุยกันถูกคอจริงนะ (หัวเราะ)

ทาเครุ : ครับ!

ฮิโรโตะ : แน่น้อน (หัวเราะ)  นายเนี่ยชอบอ่านนิยายมากเลยนะ จริงม่ะ?

ทาเครุ : ครับ  ผมชอบดูหนัง แล้วก็ MV ด้วยนะ!  ตอนยังเรียนอยู่จะดูรายการที่จัดอับอันดับ MV ยอดนิยม  ผมดูตั้งแต่อันดับที่ 100 มาจนถึง 1 เลยล่ะครับ

ฮิโรโตะ : ฉันจำรายการนั้นได้นะ (หัวเราะ) เคยดูบ่อยๆเหมือนกัน แต่ตอนที่นายยังเรียนอยู่  คงไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายที่อ่านนิยายมากนักหรอก  จริงม่ะ?

ทาเครุ : ไม่มีเลยครับ แต่คนในโลก Visual Kei เนี่ย  อ่านกันเยอะแยะเลยนะครับ

ฮิโรโตะ : ฉันก็เริ่มอ่านมาตั้งนานแล้วล่ะ  ตอนนี้วันๆนึงก็เล่นแต่กีต้าร์กับอ่านนิยาย  เพราะเป็นทั้งนักอ่าน ทั้งมือกีต้าร์เลยทีเดียว (หัวเราะ) นี่แหละที่มาของความมืดมน [ แปลเองมึนเอง คิดว่าฮิโรโระโตะคงหมายถึงแนวนิยายที่ตัวเองอ่านมันค่อนข้างโศกๆ มืดมนนิดๆ มั้งนะ ]

ทาเครุ : เหมือนกันแฮะ (หัวเราะ) แต่ตอนที่อยู่บนเวทีฮิโรโตะซังดูมีพลังแล้วก็รุนแรงมากเลยนะครับ

ฮิโรโตะ : ก็เหมือนตอนที่นายกระโดดไปบนสปีกเกอร์แล้วก็เล่นกีต้าร์นั่นแหละ  ฉันตกใจมากเลยที่เห็นนายทำแบบนั้นน่ะ



-- โหววว คนแบบฮิโรโตะตกใจเป็นด้วยเหรอ (หัวเราะ)

ฮิโรโตะ : เป็นสิ (หัวเราะ) อื้อๆ  (หัวเราะ)

ทาเครุ : ฮ่ะฮ่าๆ แต่ฮิโรโตะซังเนี่ยมีความสามารถด้านร่างกายสูงมากเลยนะครับ

ฮิโรโตะ : ฮ่าๆๆ ความสามารถด้านร่างกายเร๊อะ (หัวเราะ)

ทาเครุ : แต่ก็สมควรแหละ เพราะทั้งเต้นทั้งทำอะไรตั้งหลายอย่าง



-- อะไรนะ?! เขาเต้นได้ด้วยเหรอ!? เพิ่งเคยได้ยินนะเนี่ย!

ฮิโรโตะ : ไม่ๆ ผมไม่สามารถเต้นแบบที่ทาเครุเต้นได้หรอกนะ (หัวเราะ)

ทาเครุ : ไม่เลยนะ  ผมสงสัยมาตลอดเลยว่าที่มาของแรงผลักดันของฮิโรโตะซังคืออะไร?  เพราะอยากถาม ก็เลยเลือกฮิโรโตะซังมาเป็นเกสท์ไงล่ะครับ!

ฮิโรโตะ : โห! นี่เป็นประเด็นสำคัญเลยสินะ? (หัวเราะ)

ทาเครุ : ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ (หัวเราะ)

ฮิโรโตะ : แต่พี่ชายของฉัน  เขาเคยเต้นนะ  เราอายุห่างกัน 10 ปีแหนะ  หลังจากที่เห็นเขาเต้น  พอฉันอายุสัก 3 ขวบ  ก็เลยเริ่มเต้นกับพี่น่ะ  บางทีมันคงช่วยเพิ่มทักษะด้านความแข็งแรงให้ล่ะมั้ง  แต่ที่ฉันทำบนเวที  ไม่มีอะไรช่วยบอกใบ้ให้หรอกนะ (หัวเราะ) ก่อนเริ่มเล่นไลฟ์ และก่อนไปที่เวที  ฉันจะนึกภาพตัวเองทำเรื่องเจ๋งๆบนนั้น  แต่พอขึ้นเวทีจริงๆ แล้วได้ยืนต่อหน้าแฟนคลับในหัวมันขาวโพลนหมดอะ  บอกตรงๆเลยนะ.. คงเพราะฉันเคยเป็นคนมืดมนน่ะ (หัวเราะ) ตอนประถม.. เรื่องมนุษย์สัมพันธ์โคตรแย่อะ  แต่ในหัวฉันมักจะคิดอะไรหลายๆอย่าง  นั่นเพราะฉันมั่นใจมากว่า โลกใบนี้หมุนรอบตัวฉัน (หัวเราะ)

ทาเครุ : ฮ่าๆๆ ใครๆก็คิดแบบนั้นน๊า  แบนด์แมนทุกคนล้วนมีโลกส่วนตัวของตัวเองทั้งนั้น (หัวเราะ)

ฮิโรโตะ : อื้ม (หัวเราะ) ในช่วงเวลานั้นก็ได้พบกับกีต้าร์ล่ะ  ฉันคิดว่า “นี่ล่ะ  สิ่งที่จะทำให้โลกทั้งใบหมุนรอบตัวฉันจริงๆสักที” อยากทำให้ทุกสิ่งเป็นเหมือนความฝันบนโลกแห่งความเป็นจริง  ไม่อย่างนั้นก็.. ฉันรู้สึกว่า ได้ค้นพบสถานที่ที่ความฝันของฉันจะมีชีวิตขึ้นมาได้  ถ้าไม่มีกีต้าร์  โลกใบนี้คงไม่มีทางหมุนรอบตัวฉันได้หรอก (หัวเราะ) น่าสงสารจริงๆเลยน๊า~

ทาเครุ : ผมเข้าใจดีเลยล่ะ! แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วเนอะ  เพราะได้มันไว้ในมือแล้ว.. ผมนี่สิไม่มีอะไรเลย

ฮิโรโตะ : ก็ร้องเพลงไงล่ะ หรือไม่ใช่?

ทาเครุ : ไม่หรอกครับ  ถ้าเกิดมีใครสักคนบอกผมว่า “แสดงให้ดูสิว่านายทำอะไรได้” ผมไม่ได้อยากแค่ร้องเพลงให้พวกเขาฟัง แต่อยากจะถ่ายทอดสิ่งต่างๆในเพลงด้วยถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความหมาย  ผมอาจจะทำได้ไม่ดีนัก  นั่นเป็นอีกเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อนของตัวผม

ฮิโรโตะ : แต่ทุกสิ่งที่ทำในตอนนี้มันคือส่วนหนึ่งของตัวนายไม่ใช่รึไง  ฉันคิดว่าใช่นะ  เพราะสิ่งที่นายทำไม่ใช่ว่าใครจะทำตามได้ง่ายๆหรอก

ทาเครุ : นั่นทำให้ผมมีความสุขมากเลยล่ะ  ขอบคุณนะครับ! ผมคิดว่าพอจะเข้าใจแล้วล่ะว่าแรงผลักดันของฮิโรโตะซังมาจากที่ไหน!

ฮิโรโตะ : จากตัวตนที่มืดมนของฉันน่ะนะ (หัวเราะ)

ทาเครุ : ไม่ช่ายยย (หัวเราะ) ส่วนหนึ่งของตัวฮิโรโตะซังนั่นแหละ คือ แรงผลักดันที่ดี  ถ้าไม่มีมัน  ก็อาจไม่สามารถเล่นไลฟ์ด้วยพลังที่พลุ่งพล่านแบบนั้นได้  ถ้าไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเป็น.. ยิ่งไม่มีทางถึงจุดเดือดได้แน่ๆ  ผมคิดว่า เพราะฮิโรโตะซังมีระดับอารมณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต่ำสุดจนถึงสูงสุด  จึงสามารถระเบิดพลังออกมาได้ไงล่ะ

ฮิโรโตะ : ก็จริงนะ แต่คนแบบคาวามุระ ริวอิจิซัง กับ Hyde ซังน่ะสุดยอดที่สุดแล้ว สู้ไม่ได้เลยอ่า  มันไม่มีทางเลยนะที่จะทำอะไรที่มันต่างกันสุดขั้วบนเวที แต่พวกเขาทำได้  ยอดเยี่ยมที่สุดเลย  ฉันคิดว่ายอดเยี่ยมจริงๆนะ

ทาเครุ : ครับ  ผมชอบ Hyde ซังมากเลยล่ะ  แต่ผมไม่อยากเจอเขาหรอกนะ (หัวเราะ)



-- เห๊ะ? ทำไมล่ะ?

ทาเครุ : ผมค่อนข้างนับถือเขาน่ะครับ  ผมเดาว่า คงเพราะผมไม่อยากจะคิดว่าเขามีชีวิตอยู่บนโลกนี้ (หัวเราะ)

ฮิโรโตะ : ฉันเข้าใจที่นายอยากจะสื่อนะ! เพราะนายรักและนับถือเขามาก  ก็เลยไม่อยากเจอสินะ

ทาเครุ : ใช่ครับ



-- นั่นเป็นเรื่องที่ดีนะ  พูดต่อสิ

ฮิโรโตะ : ฉันมีโอกาสได้พบกับ SUGIZO ซังล่ะ  หลังจากนั้นก็เจอกันบ่อยขึ้นจนถึงตอนนี้เลย  แต่พอเขารู้ว่าฉันเคารพนับถือเขามากๆ  ฉันกลับรู้สึกว่า เขาพยายามรักษาระยะห่าง

ทาเครุ : ห๊ะ โชคดีจังเลยครับ! ผมเองก็นับถือเขานะ!

ฮิโรโตะ : ตอนนี้ฉันเองก็มีรุ่นน้องแล้ว  ดังนั้นจึงเริ่มเอาใจใส่ในจุดยืนของตัวเอง และรู้สึกอยากจะเป็นรุ่นพี่ที่ดีแบบที่รุ่นน้องคาดหวัง  แต่เวลาอยู่กับพวกเขาทีไรลืมตัวทุกทีอะ (หัวเราะ) หลังจากฟอร์มวงได้ 8 ปี  ก็มีบ้างที่คิดว่า เมื่อต้องเป็นคนที่มีค่าคู่ควรสำหรับคำว่า “รุ่นพี่”  ก็ต้องรู้จักขีดเส้นความสัมพันธ์กับคนที่เรานับถือและเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องดนตรีอย่างชัดเจนด้วย



-- หมายความว่า อยากจะแสดงความเคารพต่อพวกเขาสินะ  ไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์แบบรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่เป็นเพราะพวกเขาเป็นบุคคลที่มีความสำคัญ ..ใช่มั้ย?

ฮิโรโตะ : ครับ ถูกต้องเลยล่ะ  พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับที่จะเรียกว่า “รุ่นพี่” ได้หรอก  พวกเขาคือคนที่ดึงผมเข้าสู่ดนตรี  พอคิดแบบนั้น.. ก็ไม่สามารถข้ามเส้นที่ขีดไว้ได้  ผมจำเป็นต้องรักษาระยะห่างนั้นไว้

ทาเครุ : ผมเข้าใจแล้วครับ!

ฮิโรโตะ : พวกเขาไม่เคยทำให้ผิดหวัง และก็ยังยอดเยี่ยมขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ใช่ว่าชีวิตนี้ฉันไม่อยากเจอพวกเขาเลยหรอกนะ  ฉันแค่คิดว่าไม่ควรขยับไปใกล้มากเกินไปเท่านั้น

ทาเครุ : เข้าใจล่ะครับ! คุณไม่ได้รู้สึกผิดหวังในตัวพวกเขา แต่ไม่อยากรู้จักพวกเขามากเกินไป

ฮิโรโตะ : อื้อ!



-- อยากจะเก็บพวกเขาไว้ในอาณาเขต “บุคคลที่ฉันเคารพ” สินะ

ทาเครุ : ใช่ครับ  นั่นเป็นที่ที่ทำให้คิดว่าพวกเขาไม่มีตัวตนอยู่บนโลกนี้ไงล่ะ! ผมไม่อยากจะคิดว่า พวกเขาต้องเสียภาษีเหมือนคนทั่วไปหรอกนะครับ

ฮิโรโตะ : ฮ่า ฮ่าๆ! นั่นสิเนอะ!

ทาเครุ : นั่นทำให้ผมคิดได้เรื่องนึงล่ะ  เป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกผิดหวังนิดหน่อยนะ! ผมได้เจอกับวงดนตรีฝั่งตะวันตกล่ะ  พวกเขามาที่ร้านที่ผมไปบ่อยๆ  พวกเขากำลังจะซื้อกางเกงตัวละ 6,000 เยน  แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อ  เพราะพอเห็นป้ายราคา  เขาก็พูดว่ามันแพงเกินไป! ได้ยินแบบนั้นผมก็แอบผิดหวังนะ (หัวเราะ)

ฮิโรโตะ : ฮ่าๆๆๆ



-- คงคิดว่า “อย่ามาพูดว่า 6,000 เยนมันแพงไป” สินะ

ฮิโรโตะ : ระวังไว้เหอะ! มันอาจจะเกิดขึ้นกับเรานะ!  ถ้าเกิดเราไปช็อปปิ้งแล้วคนขายรู้จักเราขึ้นมาล่ะ  แล้วสุดท้ายเราก็ไม่ได้ซื้อกางเกงตัวละ 6,000 เยน  เพราะมันแพงเกินไป  คนขายต้องไปเม้าธ์ให้แฟนคลับของเราที่บังเอิญไปร้านนั้นฟังแน่ๆว่า “ตอนที่ฮิโรโตะ วง Alice Nine มาที่นี่  เขาบอกว่ากางเกงตัวนั้นมันแพงเกินไป แล้วก็ไม่ซื้ออะไรสักอย่าง” จริงม่ะ?!

ทาเครุ : ฮ่ะๆๆ นั่นสิ (หัวเราะ) ต้องระวังซะแล้วสิ! พวกเขาต้องเอาไปเม้าธ์แน่ๆอะ!

ฮิโรโตะ : เขาทำแน่! เพราะยังเคยมีแท็กซี่ที่เผลอบอกที่อยู่ให้กับแฟนคลับเลยนี่นา

ทาเครุ : ใช่ครับ! ผมล่ะไม่ชอบเลย



-- ใช่ๆ เคยมีแท็กซี่คนนึงบอกฉันว่า บ้านของไซโจ ฮิเดกิ อยู่ที่ไหนด้วยนะ

ฮิโรโตะ & ทาเครุ : จริงดิ (ฮาลั่น)!



-- อ๊ะ 30 นาทีแล้วนะ

ทาเครุ :ห๊าาา~?!

ฮิโรโตะ : ก็ตรงเวลาไปน๊า~(หัวเราะ)



-- สุดท้ายนี้.. ฮิโรโตะไม่อยากจะสัญญาอะไรกับทาเครุบ้างเหรอ?

ฮิโรโตะ : สัญญาเหรอ?! คงจะดีนะถ้าเราได้ขึ้นไลฟ์บนเวทีเดียวกันน่ะ  ไม่คิดว่าเราจะสามารถทำอะไรที่มันน่าสนใจได้เหรอ?

ทาเครุ : ทำได้สิครับ! ผมเองก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกันนะ  ผมจะดีใจมากเลยล่ะ  ถ้าเป็นแบบนั้นได้อะ!  วันนี้ขอบคุณมากเลยนะครับ!

ฮิโรโตะ : เหมือนกันนะ  ขอบคุณมากๆ