จุดสำคัญที่เหมือนกันของคนทั้งคู่...
ทาเครุ : เอาล่ะ.. เราจะพูดถึงเรื่องแชมพูของฮิโรโตะซังกันนะครับ
ว่ามันดียังไง
ฮิโรโตะ : อื้อ มันดีมากเลยล่ะ
แชมพูน่ะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ถ้าเลือกใช้ทั้งแชมพูและครีมนวดที่ดี
ผมก็จะไม่เสียไง
ทาเครุ : นั่นสินะ! แต่ผมไม่ค่อยใส่ใจว่าจะใช้ยี่ห้อไหนเลยนี่สิครับ
ฮิโรโตะ : ไม่ดีเลยนะ ไม่ดีเลยจริงๆ!
-- อ๊ะ.. เริ่มแล้ว เริ่มแล้ว
เริ่มแล้ว~!
ฮิโรโตะ : อะไรเหรอ? (หัวเราะ)
ทาเครุ : ไม่มีอะไรหรอกครับ
โชซังบอกว่า ครอบครัวของฮิโรโตะซังเปิดร้านเสริมสวย เคยคุยเรื่องผม แล้วดูกระตือรือล้นเหมือนมืออาชีพมาก (หัวเราะ)
--
ถึงแม้จะเริ่มคุยกันไปเยอะแล้ว
แต่ขอพูดนิดนะ
วันนี้ฮิโรโตะดูสมเป็นรุ่นพี่มากเลยล่ะ (หัวเราะ)
ฮิโรโตะ : ตลกแฮะ
เพราะในวงผมอ่อนที่สุดเลยนะ (หัวเราะ) แต่ไม่คิดว่าจะแก่กว่าทาเครุเยอะหรอก
[ คิดว่า
ฮิโรโตะน่าจะแก่กว่า 2 ปีมั้งนะ เพราะ SuG ค่อนข้างจะปิดเรื่องอายุ ไปลองขุดๆ หาๆ ก็ได้ข้อมูลไม่ค่อยชัวร์เท่าไหร่
เอิ๊กๆ ]
ทาเครุ : ใช่แล้วครับ
ก็เหมือนมาจากรุ่นเดียวกันแหละเนอะ
ฮิโรโตะ : แน่นอน ว่าแต่..
ทาเครุเป็นอะไรน่ะ?
ทาเครุ : อะไรครับ?!
ฮิโรโตะ : เอ้ย! ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะ (หัวเราะ) จะบอกว่า
เพลงอะไรที่ฟังแล้วทำให้ตัดสินใจทำวงเหรอ?
ทาเครุ : นั่นคือ “อะไร” ที่พูดถึงเมื่อกี้สินะ (หัวเราะ) ผมแปลกใจนิดๆแฮะ (หัวเราะ) ผมฟังเพลงของวง Dragon Ash, ELLEGARDEN, ORANGE RANGE แล้วก็ KORN ครับ
ฮิโรโตะ : แต่ไม่ได้เริ่มฟังแนว Visual
Kei เลยนี่
ทาเครุ : ครับ
น้องสาวผมตังหากที่ชอบแนวนี้
ผมได้ดู DVD ของเธอ
เลยได้รู้จักกับ Visual Kei เพลงแรกๆ ที่ผมร้องโคฟเวอร์เป็นของ SADS,
ORANGE RANGE และ Nirvana ครับ
ฮิโรโตะ : ไม่ใช่แนวเดียวกันเลยนะ!
ทาเครุ : ครับ
ผมชอบฟังเพลงหลายๆแนวน่ะ
ผมเลือกฟังเพลงจากตัวศิลปิน
เพราะมันจะมีคุณภาพมาก
ตอนแรกผมไม่ได้คิดจะฟอร์มวงหรอกครับ
ผมอยากเป็นผู้กำกับที่ทั้งเขียนบทเอง
กำกับเอง
ฮิโรโตะ : เห๊?! อะไรกันล่ะเนี่ยยย?
ทาเครุ : ก็ผมไม่เก่งเรื่องดนตรีนี่นา
ฮิโรโตะ : ไม่เก่ง? แล้วทำไมถึงคิดจะฟอร์มวงล่ะ
ทาเครุ : ก็หลังจากฟังอัลบั้ม『 666 』(วางแผงในเดือนธันวาคม 2003) ของ Hyde ซังครับ ผมก็ตกใจตัวเองนะ เพราะหลังจากนั้นก็ไปดูไลฟ์เป็นครั้งแรกเลยล่ะ เป็นไลฟ์ที่ดีมาก จนทำให้คิดว่า “วิวที่มองจากเวทีลงมาจะเป็นยังไงกันนะ?” ก็เลยอยากลองฟอร์มวงน่ะครับ
ฮิโรโตะ : เข้าใจล่ะ
แล้วก็ต้องเป็นนักร้องนำด้วยใช่มั้ย?
ทาเครุ : ครับ
ก็ร้องเพลงเป็นอยู่อย่างเดียวอะ
ฮิโรโตะ : อื้อ แต่ฉันว่านั่นไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ฟอร์มวงหรอก นายสัมผัสได้ถึงภาพฉากต่างๆ
ที่แฝงอยู่ในดนตรีตังหากล่ะ
ทาเครุ : ครับ
ผมชอบดูหนังแล้วก็อ่านนิยายมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะ
ผมเลยอยากที่จะสร้างโลกในแบบของผมที่สามารถเชื่อมไปถึงดนตรีได้น่ะครับ
ฮิโรโตะ : อื้อ
น่าสนใจแฮะ พอได้ฟังที่นายพูด ฉันรู้สึกได้ว่านั่นคือสิ่งที่นายทำเพื่อ SuG และนายก็ทำได้อย่างที่ต้องการแล้วนะ
ทาเครุ : ครับ
เหมือนกับดนตรีของเราอยู่บนพื้นฐานของความสร้างสรรค์เลยล่ะ
ฮิโรโตะ : อื้อ ใช่แล้ว
ว่าแต่นายอ่านนิยายแนวไหนเหรอ?
ทาเครุ : ถ้าตอนยังเด็กก็อ่านแต่แบบที่เด็กเขาอ่านกันแหละครับ เรื่องแรกก็ต้อง『 การผจญภัยของยักษ์กาลิเวอร์ 』(หัวเราะ) แต่นิยายเรื่องแรกที่อ่านเป็นของอิชิดะ
อิระซังครับ
ฮิโรโตะ : แล้วมีเรื่องอะไรที่เพิ่งอ่านไปบ้างมั้ย?
ทาเครุ : ก็มีงานของซาคุราบะ คาซึกิซังครับที่เพิ่งอ่านจบไป ..เรื่อง『 สาวน้อยโรแวน กับ ผู้ใหญ่ที่น่ารักทั้งเจ็ด 』[ โรแวน (Rowan) เป็นอีกชื่อหนึ่งของต้น Mountain Ash ค่ะ
ซึ่งจะใช้เรียกในแทบไอร์แลนด์และอังกฤษค่ะ ]
ฮิโรโตะ : แล้วอ่านงานของนิชิโอะ อิชินซังบ้างรึเปล่า อย่างเรื่อง『 เรื่องเล่าสยองขวัญ 』?
ทาเครุ : อ้อ เคยได้ยินชื่อเรื่องอยู่นะ!
ฮิโรโตะ : พล็อตเรื่องหักมุมมากอะ แถมเขายังใช้คำได้น่าสนใจสุดๆ อ้อ.. งานของโอซึอิจิซังก็น่าสนใจเหมือนกันนะ
ทาเครุ : ผมชอบงานของโอซึอิจิซังครับ! ตอนที่เรียนอยู่ม.ปลายผมอ่านงานของเขาตลอดเลยล่ะ
ฮิโรโตะ : ฉันก็อ่านเยอะเหมือนกันนะ
แล้วชอบเรื่องไหนเป็นพิเศษล่ะ?
ทาเครุ : 『
เรื่องราวที่สาบสูญ 』แล้วฮิโรโตะซังล่ะครับ
ฮิโรโตะ : ฉันชอบ 『SEVEN ROOMS 』จากซีรี่ย์『 ZOO 』
ทาเครุ : เรื่องนั้นได้สร้างเป็นหนังด้วยใช่มั้ยครับ? เรื่องนั้นดีมากๆเลยล่ะ! ผมก็ชอบน๊า! ชอบเหมือนกันเลย! ใน MV เพลง『 Kiseki 』ของ THE BACK HORN ก็มีฉากในหนังด้วยนะครับ
เพราะเป็นเพลงประกอบในเวอร์ชั่นหนังล่ะ
ฮิโรโตะ : สไตล์การเขียนของโอซึอิจิซังค่อนข้างจะรุนแรงนะ
แต่ฉันว่ามันน่าสนใจตรงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกโศกเศร้า!
ทาเครุ : อืม.. ฮิโรโตะซังเคยอ่านเรื่อง『 ตลาดมืด 』ของทซึเนะคาวะ โคตารุซังมั้ยครับ?
ฮิโรโตะ : ไม่เคยอะ
ทาเครุ : ถ้าชอบงานของโอซึอิจิซัง ผมแนะนำเรื่องนี้เลยครับ ต้องชอบแน่ๆ!
ฮิโรโตะ : จริงดิ? เดี๋ยวจะลองหามาอ่านนะ
“การเต้น!”
เป็นสิ่งที่เหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อของทั้งคู่
-- คุยกันถูกคอจริงนะ (หัวเราะ)
ทาเครุ : ครับ!
ฮิโรโตะ : แน่น้อน (หัวเราะ)
นายเนี่ยชอบอ่านนิยายมากเลยนะ จริงม่ะ?
ทาเครุ : ครับ ผมชอบดูหนัง
แล้วก็ MV ด้วยนะ! ตอนยังเรียนอยู่จะดูรายการที่จัดอับอันดับ MV
ยอดนิยม
ผมดูตั้งแต่อันดับที่ 100 มาจนถึง 1 เลยล่ะครับ
ฮิโรโตะ : ฉันจำรายการนั้นได้นะ (หัวเราะ) เคยดูบ่อยๆเหมือนกัน
แต่ตอนที่นายยังเรียนอยู่ คงไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายที่อ่านนิยายมากนักหรอก จริงม่ะ?
ทาเครุ : ไม่มีเลยครับ แต่คนในโลก Visual Kei เนี่ย อ่านกันเยอะแยะเลยนะครับ
ฮิโรโตะ : ฉันก็เริ่มอ่านมาตั้งนานแล้วล่ะ ตอนนี้วันๆนึงก็เล่นแต่กีต้าร์กับอ่านนิยาย เพราะเป็นทั้งนักอ่าน ทั้งมือกีต้าร์เลยทีเดียว (หัวเราะ) นี่แหละที่มาของความมืดมน [ แปลเองมึนเอง
คิดว่าฮิโรโระโตะคงหมายถึงแนวนิยายที่ตัวเองอ่านมันค่อนข้างโศกๆ มืดมนนิดๆ มั้งนะ ]
ทาเครุ : เหมือนกันแฮะ (หัวเราะ) แต่ตอนที่อยู่บนเวทีฮิโรโตะซังดูมีพลังแล้วก็รุนแรงมากเลยนะครับ
ฮิโรโตะ : ก็เหมือนตอนที่นายกระโดดไปบนสปีกเกอร์แล้วก็เล่นกีต้าร์นั่นแหละ ฉันตกใจมากเลยที่เห็นนายทำแบบนั้นน่ะ
-- โหววว
คนแบบฮิโรโตะตกใจเป็นด้วยเหรอ (หัวเราะ)
ฮิโรโตะ : เป็นสิ (หัวเราะ) อื้อๆ
(หัวเราะ)
ทาเครุ : ฮ่ะฮ่าๆ แต่ฮิโรโตะซังเนี่ยมีความสามารถด้านร่างกายสูงมากเลยนะครับ
ฮิโรโตะ : ฮ่าๆๆ ความสามารถด้านร่างกายเร๊อะ (หัวเราะ)
ทาเครุ : แต่ก็สมควรแหละ
เพราะทั้งเต้นทั้งทำอะไรตั้งหลายอย่าง
-- อะไรนะ?! เขาเต้นได้ด้วยเหรอ!? เพิ่งเคยได้ยินนะเนี่ย!
ฮิโรโตะ : ไม่ๆ ผมไม่สามารถเต้นแบบที่ทาเครุเต้นได้หรอกนะ (หัวเราะ)
ทาเครุ : ไม่เลยนะ
ผมสงสัยมาตลอดเลยว่าที่มาของแรงผลักดันของฮิโรโตะซังคืออะไร? เพราะอยากถาม
ก็เลยเลือกฮิโรโตะซังมาเป็นเกสท์ไงล่ะครับ!
ฮิโรโตะ : โห!
นี่เป็นประเด็นสำคัญเลยสินะ? (หัวเราะ)
ทาเครุ : ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ (หัวเราะ)
ฮิโรโตะ : แต่พี่ชายของฉัน
เขาเคยเต้นนะ เราอายุห่างกัน 10 ปีแหนะ
หลังจากที่เห็นเขาเต้น พอฉันอายุสัก 3 ขวบ ก็เลยเริ่มเต้นกับพี่น่ะ บางทีมันคงช่วยเพิ่มทักษะด้านความแข็งแรงให้ล่ะมั้ง แต่ที่ฉันทำบนเวที ไม่มีอะไรช่วยบอกใบ้ให้หรอกนะ (หัวเราะ) ก่อนเริ่มเล่นไลฟ์
และก่อนไปที่เวที ฉันจะนึกภาพตัวเองทำเรื่องเจ๋งๆบนนั้น แต่พอขึ้นเวทีจริงๆ แล้วได้ยืนต่อหน้าแฟนคลับในหัวมันขาวโพลนหมดอะ บอกตรงๆเลยนะ.. คงเพราะฉันเคยเป็นคนมืดมนน่ะ (หัวเราะ)
ตอนประถม.. เรื่องมนุษย์สัมพันธ์โคตรแย่อะ
แต่ในหัวฉันมักจะคิดอะไรหลายๆอย่าง
นั่นเพราะฉันมั่นใจมากว่า โลกใบนี้หมุนรอบตัวฉัน (หัวเราะ)
ทาเครุ : ฮ่าๆๆ ใครๆก็คิดแบบนั้นน๊า แบนด์แมนทุกคนล้วนมีโลกส่วนตัวของตัวเองทั้งนั้น (หัวเราะ)
ฮิโรโตะ : อื้ม (หัวเราะ) ในช่วงเวลานั้นก็ได้พบกับกีต้าร์ล่ะ ฉันคิดว่า “นี่ล่ะ
สิ่งที่จะทำให้โลกทั้งใบหมุนรอบตัวฉันจริงๆสักที” อยากทำให้ทุกสิ่งเป็นเหมือนความฝันบนโลกแห่งความเป็นจริง ไม่อย่างนั้นก็.. ฉันรู้สึกว่า
ได้ค้นพบสถานที่ที่ความฝันของฉันจะมีชีวิตขึ้นมาได้ ถ้าไม่มีกีต้าร์ โลกใบนี้คงไม่มีทางหมุนรอบตัวฉันได้หรอก (หัวเราะ)
น่าสงสารจริงๆเลยน๊า~
ทาเครุ : ผมเข้าใจดีเลยล่ะ! แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วเนอะ เพราะได้มันไว้ในมือแล้ว.. ผมนี่สิไม่มีอะไรเลย
ฮิโรโตะ : ก็ร้องเพลงไงล่ะ หรือไม่ใช่?
ทาเครุ : ไม่หรอกครับ
ถ้าเกิดมีใครสักคนบอกผมว่า “แสดงให้ดูสิว่านายทำอะไรได้” ผมไม่ได้อยากแค่ร้องเพลงให้พวกเขาฟัง
แต่อยากจะถ่ายทอดสิ่งต่างๆในเพลงด้วยถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความหมาย ผมอาจจะทำได้ไม่ดีนัก นั่นเป็นอีกเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อนของตัวผม
ฮิโรโตะ : แต่ทุกสิ่งที่ทำในตอนนี้มันคือส่วนหนึ่งของตัวนายไม่ใช่รึไง ฉันคิดว่าใช่นะ เพราะสิ่งที่นายทำไม่ใช่ว่าใครจะทำตามได้ง่ายๆหรอก
ทาเครุ : นั่นทำให้ผมมีความสุขมากเลยล่ะ ขอบคุณนะครับ!
ผมคิดว่าพอจะเข้าใจแล้วล่ะว่าแรงผลักดันของฮิโรโตะซังมาจากที่ไหน!
ฮิโรโตะ : จากตัวตนที่มืดมนของฉันน่ะนะ (หัวเราะ)
ทาเครุ : ไม่ช่ายยย (หัวเราะ) ส่วนหนึ่งของตัวฮิโรโตะซังนั่นแหละ คือ
แรงผลักดันที่ดี ถ้าไม่มีมัน ก็อาจไม่สามารถเล่นไลฟ์ด้วยพลังที่พลุ่งพล่านแบบนั้นได้ ถ้าไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเป็น..
ยิ่งไม่มีทางถึงจุดเดือดได้แน่ๆ ผมคิดว่า
เพราะฮิโรโตะซังมีระดับอารมณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต่ำสุดจนถึงสูงสุด จึงสามารถระเบิดพลังออกมาได้ไงล่ะ
ฮิโรโตะ : ก็จริงนะ แต่คนแบบคาวามุระ ริวอิจิซัง กับ Hyde ซังน่ะสุดยอดที่สุดแล้ว สู้ไม่ได้เลยอ่า มันไม่มีทางเลยนะที่จะทำอะไรที่มันต่างกันสุดขั้วบนเวที แต่พวกเขาทำได้ ยอดเยี่ยมที่สุดเลย ฉันคิดว่ายอดเยี่ยมจริงๆนะ
ทาเครุ : ครับ ผมชอบ Hyde ซังมากเลยล่ะ แต่ผมไม่อยากเจอเขาหรอกนะ (หัวเราะ)
-- เห๊ะ? ทำไมล่ะ?
ทาเครุ : ผมค่อนข้างนับถือเขาน่ะครับ
ผมเดาว่า คงเพราะผมไม่อยากจะคิดว่าเขามีชีวิตอยู่บนโลกนี้ (หัวเราะ)
ฮิโรโตะ : ฉันเข้าใจที่นายอยากจะสื่อนะ! เพราะนายรักและนับถือเขามาก ก็เลยไม่อยากเจอสินะ
ทาเครุ : ใช่ครับ
-- นั่นเป็นเรื่องที่ดีนะ พูดต่อสิ
ฮิโรโตะ : ฉันมีโอกาสได้พบกับ SUGIZO ซังล่ะ
หลังจากนั้นก็เจอกันบ่อยขึ้นจนถึงตอนนี้เลย แต่พอเขารู้ว่าฉันเคารพนับถือเขามากๆ ฉันกลับรู้สึกว่า เขาพยายามรักษาระยะห่าง
ทาเครุ : ห๊ะ โชคดีจังเลยครับ! ผมเองก็นับถือเขานะ!
ฮิโรโตะ : ตอนนี้ฉันเองก็มีรุ่นน้องแล้ว ดังนั้นจึงเริ่มเอาใจใส่ในจุดยืนของตัวเอง และรู้สึกอยากจะเป็นรุ่นพี่ที่ดีแบบที่รุ่นน้องคาดหวัง แต่เวลาอยู่กับพวกเขาทีไรลืมตัวทุกทีอะ (หัวเราะ) หลังจากฟอร์มวงได้ 8 ปี ก็มีบ้างที่คิดว่า เมื่อต้องเป็นคนที่มีค่าคู่ควรสำหรับคำว่า “รุ่นพี่” ก็ต้องรู้จักขีดเส้นความสัมพันธ์กับคนที่เรานับถือและเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องดนตรีอย่างชัดเจนด้วย
-- หมายความว่า อยากจะแสดงความเคารพต่อพวกเขาสินะ ไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์แบบรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่เป็นเพราะพวกเขาเป็นบุคคลที่มีความสำคัญ ..ใช่มั้ย?
ฮิโรโตะ : ครับ ถูกต้องเลยล่ะ พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับที่จะเรียกว่า “รุ่นพี่” ได้หรอก พวกเขาคือคนที่ดึงผมเข้าสู่ดนตรี พอคิดแบบนั้น.. ก็ไม่สามารถข้ามเส้นที่ขีดไว้ได้ ผมจำเป็นต้องรักษาระยะห่างนั้นไว้
ทาเครุ : ผมเข้าใจแล้วครับ!
ฮิโรโตะ : พวกเขาไม่เคยทำให้ผิดหวัง และก็ยังยอดเยี่ยมขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ใช่ว่าชีวิตนี้ฉันไม่อยากเจอพวกเขาเลยหรอกนะ ฉันแค่คิดว่าไม่ควรขยับไปใกล้มากเกินไปเท่านั้น
ทาเครุ : เข้าใจล่ะครับ! คุณไม่ได้รู้สึกผิดหวังในตัวพวกเขา แต่ไม่อยากรู้จักพวกเขามากเกินไป
ฮิโรโตะ : อื้อ!
-- อยากจะเก็บพวกเขาไว้ในอาณาเขต
“บุคคลที่ฉันเคารพ” สินะ
ทาเครุ : ใช่ครับ
นั่นเป็นที่ที่ทำให้คิดว่าพวกเขาไม่มีตัวตนอยู่บนโลกนี้ไงล่ะ! ผมไม่อยากจะคิดว่า
พวกเขาต้องเสียภาษีเหมือนคนทั่วไปหรอกนะครับ
ฮิโรโตะ : ฮ่า ฮ่าๆ! นั่นสิเนอะ!
ทาเครุ : นั่นทำให้ผมคิดได้เรื่องนึงล่ะ เป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกผิดหวังนิดหน่อยนะ! ผมได้เจอกับวงดนตรีฝั่งตะวันตกล่ะ พวกเขามาที่ร้านที่ผมไปบ่อยๆ พวกเขากำลังจะซื้อกางเกงตัวละ 6,000 เยน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อ เพราะพอเห็นป้ายราคา เขาก็พูดว่ามันแพงเกินไป!
ได้ยินแบบนั้นผมก็แอบผิดหวังนะ (หัวเราะ)
ฮิโรโตะ : ฮ่าๆๆๆ
-- คงคิดว่า “อย่ามาพูดว่า 6,000 เยนมันแพงไป” สินะ
ฮิโรโตะ : ระวังไว้เหอะ! มันอาจจะเกิดขึ้นกับเรานะ! ถ้าเกิดเราไปช็อปปิ้งแล้วคนขายรู้จักเราขึ้นมาล่ะ แล้วสุดท้ายเราก็ไม่ได้ซื้อกางเกงตัวละ 6,000
เยน เพราะมันแพงเกินไป
คนขายต้องไปเม้าธ์ให้แฟนคลับของเราที่บังเอิญไปร้านนั้นฟังแน่ๆว่า “ตอนที่ฮิโรโตะ
วง Alice Nine มาที่นี่
เขาบอกว่ากางเกงตัวนั้นมันแพงเกินไป แล้วก็ไม่ซื้ออะไรสักอย่าง” จริงม่ะ?!
ทาเครุ : ฮ่ะๆๆ นั่นสิ (หัวเราะ) ต้องระวังซะแล้วสิ! พวกเขาต้องเอาไปเม้าธ์แน่ๆอะ!
ฮิโรโตะ : เขาทำแน่! เพราะยังเคยมีแท็กซี่ที่เผลอบอกที่อยู่ให้กับแฟนคลับเลยนี่นา
ทาเครุ : ใช่ครับ! ผมล่ะไม่ชอบเลย
-- ใช่ๆ เคยมีแท็กซี่คนนึงบอกฉันว่า
บ้านของไซโจ ฮิเดกิ อยู่ที่ไหนด้วยนะ
ฮิโรโตะ & ทาเครุ : จริงดิ (ฮาลั่น)!
-- อ๊ะ 30 นาทีแล้วนะ
ทาเครุ :ห๊าาา~?!
ฮิโรโตะ : ก็ตรงเวลาไปน๊า~(หัวเราะ)
-- สุดท้ายนี้.. ฮิโรโตะไม่อยากจะสัญญาอะไรกับทาเครุบ้างเหรอ?
ฮิโรโตะ : สัญญาเหรอ?! คงจะดีนะถ้าเราได้ขึ้นไลฟ์บนเวทีเดียวกันน่ะ
ไม่คิดว่าเราจะสามารถทำอะไรที่มันน่าสนใจได้เหรอ?
ทาเครุ : ทำได้สิครับ! ผมเองก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกันนะ
ผมจะดีใจมากเลยล่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นได้อะ! วันนี้ขอบคุณมากเลยนะครับ!
ฮิโรโตะ : เหมือนกันนะ ขอบคุณมากๆ